ปัญหาหน้าหมอง ดูโทรม ไม่สดใส อาจไม่ได้มาจากการออกแดดแต่เพียงอย่างเดียว เพราะแท้จริงแล้ว ปัจจัยทำร้ายผิวเรามีมากมาย ที่ส่งผลให้เซลล์ผิวเกิดความเสื่อมสภาพ และมีการสร้างอนุมูลอิสระเกิดขึ้นในเซลล์ผิว ซึ่งถ้าเราไม่ดูแลหรือปกป้องผิว ก็จะทำให้ปัญหาหน้าโทรมลุกลาม และนำไปสู่ปัญหาอื่นบนผิวได้ไม่ว่าจะเป็นจุดด่างดำหรือริ้วรอยร่องลึก
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน:
- ปัจจัยที่ทำให้ผิวของเราดูหมองและโทรมคืออะไรบ้าง?
- โพรไบโอติกส์ แฟรกชั่นส์ จากวิชี่ ช่วยจัดการปัญหาหน้าโทรมได้อย่างไร
ปัจจัยที่ทำให้ผิวของเราดูหมองและโทรมคืออะไรบ้าง ?
ปัจจัยที่ทำให้ผิวของเราดูหมองและโทรม คือ ไม่ใช่แค่มลภาวะ หรือรังสี UV เท่านั้นที่ทำให้ผิวหมองโทรม ดูไม่สดใส แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกที่เป็นตัวการร้าย ทำให้ผิวของเราดูหมอง ดูโทรม ดูสุขภาพผิวไม่ดี ได้อีก เช่น
ปัจจัยภายนอก
ปัจจัยภายนอก นอกเหนือจากการรับรังสี UV และมลภาวะทางอากาศ ฝุ่น PM2.5 ก็เป็นปัจจัยอีกตัวหนึ่งที่มีผลต่อการเกิดการสร้างเม็ดสีผิวในเซลล์ผิวหนัง เมื่อมีการสะสมของเม็ดสีผิวในชั้นบนของผิวหนังมากขึ้น จะทำให้เกิดจุดด่างดำ หรือความหมองคล้ำ
นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การอยู่ในห้องปรับอากาศตลอดเวลา หรืออากาศที่มีความชื้นต่ำ เช่น ในช่วงหน้าหนาว ก็อาจทำให้เกิดการอักเสบในผิวหนังมากขึ้นได้เช่นกัน
ปัจจัยจากชีวิตประจำวัน
ปัจจัยจากชีวิตประจำวัน อย่างความเครียดสะสม เป็นสาเหตุของผิวที่ดูหมองโทรม ได้เหมือนกัน เนื่องจากความเครียดสะสมจะทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด เพิ่มขึ้นในชั้นผิว ทำให้เกิดอนุมูลอิสระจำนวนมากในผิว อีกหนึ่งปัจจัยใจจากชีวิตประจำวัน คือ พักผ่อนอย่างไม่เพียงพอก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวดูหมองโทรม
ดังนั้นหากต้องการดูแลผิวหนังให้สดใสและไม่หมองโทรม ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่สร้างอันตรายต่อผิวหนัง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต รวมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมสารอาหารให้กับผิว และช่วยฟื้นฟูผิวหนังที่ดูหมองโทรมอย่างมีประสิทธิภาพ
โพรไบโอติก แฟรกชั่นส์ จากวิชี่ ช่วยจัดการปัญหาหน้าโทรมได้อย่างไร
VICHY เวชสำอางจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีแพทย์ผิวหนังกว่า 50,000 คนทั่วโลกมั่นใจแนะนำให้ใช้⁴ ได้นำเอาพลังน้ำแร่แห่งภูเขาไฟโอแวงก์ (Auvergne) มาผสานการทำงานกับสารสำคัญที่ใช้อยู่ในวงการแพทย์ อย่างเช่น โพรไบโอติกแฟรกชั่นส์ และ ไนอะซินาไมด์ มาช่วยฟื้นผิวให้ดูสดใส ไม่หมองโทรม ด้วย VICHY Mineral 89 Probiotic Fractions SUPERCHARGEเซรั่ม ที่จะช่วยดูแลปัญหาผิวเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
ด้วยส่วนผสมที่สำคัญคือ โพรไบโอติก แฟรกชั่นส์ เข้มข้น 5% ที่สกัดมาจากจุลินทรย์ที่มีประโยชน์ต่อผิวอย่าง Vitreoscilla Filiformis ที่นำมาเพาะเลี้ยงในน้ำแร่ภูเขาไฟวิชี่ จนทำให้สารสกัดที่ได้ มีสารอาหารและแร่ธาตุบำรุงผิวสูงถึง 34 ชนิด จึงช่วยดูแลผิวที่หมอง โทรม ดูเหนื่อยล้า จากการที่ผิวต้องเผชิญกับปัจจัยทำร้ายผิวมาอย่างหนักหน่วงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งไนอะซินาไมด์ (วิตามิน B3), ไฮยาลูรอน และน้ำแร่ภูเขาไฟวิชี่ที่ช่วยเติมเต็ม ความชุ่มชื้นให้กับผิว
VICHY M89 Probiotic Fractions มาพร้อมกับความปลอดภัยที่แพทย์ผิวหนังยอมรับ ไม่ว่าจะเป็น สูตรอ่อนโยนเหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย (hypoallergenic) ปราศจากสี, ปราศจากน้ำหอม, ปราศจากสารกันเสียพาราเบน จึงทำให้คนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายสามารถใช้ได้อย่างสบายใจแน่นอน
สำหรับขั้นตอนในการใช้ VICHY Mineral 89 Probiotic Fractions เป็นSUPERCHARGEเซรั่ม แนะนำให้ลงบนผิวเป็นขั้นตอนแรกสุด ก่อนที่จะลงเซรั่มชนิดอื่น ๆ ทั้งนี้เพื่อช่วยในการเตรียมผิว และช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารทั้ง 34 ชนิดที่มีอยู่ใน 5% Probiotic Fractions อย่างเต็มที่
สรุป
ปัญหาหน้าโทรม ผิวดูไม่สดใส เกิดจากหลายปัจจัยทำร้ายผิวหลายอย่าง การดูแลผิวจึงจำเป็นต้องทำให้ครบรอบด้าน ทั้งการป้องกันผิวจากปัจจัยทำร้ายผิว ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ และอย่าลืมที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารอาหารและแร่ธาตุบำรุงผิวสูงถึง 34 ชนิด อย่างเช่น Vichy Mineral 89 Probiotic Fractions ด้วย
- Grether-Beck S et al. 2020. An antioxidant cocktail containing cosmetic product (Liftactive cureR) prevents air pollution-induced skin hyperpigmentation: ex vivo Düsseldorf Pollution Skin Test. AAD 2020.
- K.A. Engebretsen, The effect of environmental humidity and temperature on skin barrier function and dermatitis. JEADV Oct 2015
- Suh DH, Kim BY, Min SU, Lee DH, Yoon MY, Kim NI, Kye YC, Lee ES, Ro YS, Kim KJ. A multicenter epidemiological study of acne vulgaris in Korea. Int J Dermatol. 2011 Jun;50(6):673-81.
- ผลสำรวจโดย AplusA และผู้ทำการสำรวจร่วมโดยอ้างอิงจากตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ เวชสำอาง ระหว่าง มกราคม 2021 ถึง ตุลาคม 2021 ซึ่งเป็นผลสํารวจที่มีแพทย์ผิวหนัง ทั้งหมด 34 ประเทศเข้าร่วม โดยสามารถอ้างอิงถึงมากกว่า 80% ของ GDA ทั่วโลก