เตือนผู้ใช้เรตินอลหากเลือกใช้ผิด แทนที่จะสวย อาจได้ผิวพัง

"เรตินอล" ส่วนผสมสุดฮิต ที่ใครๆ ก็ต่างยกให้เป็น "ยาอายุวัฒนะ" สำหรับผิว ช่วย ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ และ เผยผิวใหม่ที่ดูอ่อนเยาว์ แต่ด้วยความนิยม ที่ทำให้ส่วนผสมนี้มีให้เลือกใช้มากมายหลายรูปแบบ หลายความเข้มข้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่หลายคน ใช้แล้ว "ไม่เห็นผล" หรือ หนักกว่านั้น คือ ใช้แล้ว "แพ้" ผิวลอก แดง ระคายเคือง บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับส่วนผสมยอดนิยมและการเลือกใช้ความเข้มข้นให้เหมาะกับผิวของเรากัน

“เรตินอล" มีหลายระดับความเข้มข้น แต่ละระดับ ออกฤทธิ์ และ เหมาะกับสภาพผิว ที่แตกต่างกัน แต่ปัญหาโลกแตกที่เราพบกันอยู่ทุกวันนี้คือ

  • ใช้ความเข้มข้นสูง หวังผลลัพธ์เร็ว: หลายคนเข้าใจผิด คิดว่า ยิ่งเข้มข้น ยิ่งเห็นผลไว แต่ความจริงแล้ว การใช้ต้องค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากความเข้มข้นต่ำ เพื่อให้ผิว "ปรับสภาพ" ก่อน มิเช่นนั้น อาจระคายเคือง ผิวลอก ได้ง่ายๆ
  • ไม่รู้จักสภาพผิวตัวเอง: แต่ละความเข้มข้น เหมาะกับปัญหาผิว และ สภาพผิว ที่แตกต่างกัน เช่น ผิวบาง แพ้ง่าย ควรเลือกใช้ความเข้มข้นต่ำ ส่วนผิวที่มีปัญหา ริ้วรอยลึก จุดด่างดำชัด อาจใช้ความเข้มข้นสูงขึ้น


แล้วแบบนี้จะเลือก ความเข้มข้นเท่าไหร่ ถึงจะ "ตอบโจทย์" และ "ปลอดภัย" กับผิวของเรา

สารบัญ



เรตินอลคืออะไร ทำไมถึงฮิต ไม่มีตกยุค


เรตินอล คือ อนุพันธ์ของวิตามินเอ ที่สามารถเปลี่ยนเป็น "กรดเรติโนอิก" (Retinoic Acid) ซึ่งเป็น "ฮีโร่" ตัวจริง ในการ ต่อต้านริ้วรอยได้โดยจะเข้าไป "กระตุ้น" การทำงานของเซลล์ผิว ให้ ผลัดเซลล์ผิวเก่า ที่เสื่อมสภาพ เผยผิวใหม่ ที่ เรียบเนียน กระจ่างใส นอกจากนี้ มีความเสถียรกว่า ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีกว่า และ ให้ผลลัพธ์ ที่ ชัดเจนกว่าเมื่อเทียบกับอนุพันธ์ของวิตามินเอ ตัวอื่นๆ อย่างเช่น Retinyl Palmitate เราสามารถสรุปการทำงานได้คร่าวๆ ดังนี้

ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน


ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ เผยผิวใหม่ที่เรียบเนียน สดใส ลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ


ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว ฝ้า กระ ที่เกิดจากแสงแดดและวัยที่เพิ่มขึ้น เผยผิวสว่าง กระจ่างใส อย่างเป็นธรรมชาติ

กระชับรูขุมขน


กระชับรูขุมขน มีส่วนช่วยลดความมันส่วนเกิน ลดการอุดตันของรูขุมขน ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวเรียบเนียนขึ้น

ลดการเกิดสิวและรอยสิว


ลดการเกิดสิวและรอยสิว ช่วยควบคุมความมัน ลดการอุดตัน และยังมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย จึงช่วยลดการเกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิวและช่วยกระตุ้นสร้างเซลล์ผิวใหม่จึงช่วยลดรอยดำจากสิวได้

ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย


ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวเต่งตึง ยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก ให้ผิวดูอ่อนเยาว์

เรตินอล คือโกลสแตนดาร์ด ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพทุกยุคทุกสมัย เพราะ มีงานวิจัยรองรับ มากมาย ที่ "ยืนยัน" ถึง ประสิทธิภาพในการฟื้นฟูและชะลอวัย

ความเข้มข้นของเรตินอล


เลือกความเข้มข้นอย่างไร ให้ตรงใจ ใช่กับผิว


"เรตินอล" มีหลายระดับความเข้มข้น แต่ละระดับ ออกฤทธิ์ และ เหมาะกับสภาพผิว ที่แตกต่างกัน ไปดูกันว่า ผิวแบบคุณ เหมาะกับความเข้มข้นเท่าไหร่?^^

0.1% - 0.3%


  • เหมาะกับ : ผู้ที่เริ่มใช้เรตินอลเป็นครั้งแรก หรือ มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย
  • ผลลัพธ์ : ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดการอุดตันของรูขุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ขึ้น และมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดเลือนริ้วรอยได้เมื่อใช้เป็นประจำ
  • ข้อแนะนำ : ควรเริ่มใช้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความถี่ เมื่อผิวปรับสภาพได้


0.4% - 0.6%


  • เหมาะกับ : ผู้ที่คุ้นเคยกับระดับ 0.01% - 0.03% มาแล้ว หรือ มีปัญหาสิวอุดตัน รอยสิว จุดด่างดำ
  • ผลลัพธ์ : ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ล้ำลึกขึ้น ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
  • ข้อแนะนำ : อาจเริ่มใช้ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ แล้วค่อยๆ เพิ่มความถี่ ตามความพร้อมของผิว


0.6% ขึ้นไป


  • เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหาผิว ต้องการการฟื้นฟูอย่างล้ำลึก เช่น ริ้วรอยลึก จุดด่างดำฝังลึก รอยแผลเป็นจากสิว หรือในทางการแพทย์มักใช้เป็น Peeling agent เพื่อเร่งการผลัดลอกเซลล์ผิว
  • ผลลัพธ์ : ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย ลดรอยสิว
  • ข้อแนะนำ : เนื่องจากเป็นความเข้มข้นที่ค่อนข้างสูง ควรใช้ภายใต้ คำแนะนำของแพทย์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญ เท่านั้น


นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวัง ในการใช้สำหรับทุกสภาพผิว อย่างเช่น

  • ทดสอบการแพ้ก่อนใช้ โดยทาผลิตภัณฑ์บริเวณท้องแขน หรือ หลังใบหู ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง
  • การทา ควรเริ่มใช้จากบริเวณ ทีโซน ก่อน แล้วค่อยๆ ทาบริเวณอื่นๆ ของใบหน้า
  • ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรทาผลิตภัณฑ์มากเกินไป
  • ทาครีมบำรุง และ ครีมกันแดด ที่มีส่วนผสมอ่อนโยน ทุกครั้งหลังใช้
  • หลีกเลี่ยงการใช้พร้อมกับผลิตภัณฑ์อื่นที่มีส่วนผสมในการผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA หรือ BHA
  • หากเกิดอาการระคายเคือง ควรหยุดใช้ และ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ, เภสัชกร หรือ แพทย์ผิวหนัง

เรตินอล vichy


เซรั่มเรตินอล จากวิชี่ดีอย่างไร


Vichy เวชสำอางจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีแพทย์ผิวหนังกว่า 70000 คนทั่วโลกมั่นใจแนะนำให้ใช้^ รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ LIFTACTIV RETINOL SERUMที่ผสานการทำงานของวิตามินเอ บริสุทธิ์ หรือ เรตินอล 0.2% ซึ่งเป็นความเข้นข้นที่สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงบนชั้นผิวได้ แต่ก็ยังคงความอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย นอกจากนี้เซรั่มเรตินอลจากวิชี่ยังมี Peptide เป็นส่วนผสมที่ช่วยเสริมการทำงาน ในการลดเลือนริ้วรอยให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

หากใครกังวลเรื่องผิวแพ้ง่าย ในส่วนผสมของเซรั่มขวดนี้ยังมี 1% โพรไบโอติกแฟรกชั่น เอกสิทธิ์เฉพาะของวิชี่ เพื่อช่วยปลอบประโลมผิว ปรับโครงสร้างผิวแข็งแรง อีกทั้งลดโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองจากการใช้ได้อีก ยิ่งไปกว่านั้น เซรั่มเรตินอลจากวิชี่ยังเป็นสูตร hypoallergenic ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ปราศจากน้ำหอม, ซิลิโคน, สารแต่งสี และ สารกันเสียพาราเบน สาวๆ ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายจึงสามารถใช้ได้อย่างสบายใจ

โดยปกติแล้วแพทย์ผิวหนังมักจะแนะนำให้ใช้ส่วนผสมตัวดังนี้ในเวลากลางคืน เพื่อลดโอกาสที่จะเกิด Photo-sensitivity ในเวลากลางวัน จึงมักจะมีคำถามว่าแล้วในเวลากลางวันเราควรใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มใด หรือใช้สารแอคทีฟตัวใดเพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการผลัดเซลล์ผิวที่มากเกินไปในกรณีที่ผิวของเราบอบบางแพ้ง่ายได้อีกด้วย แพทย์ผิวหนังจึงมักแนะนำให้ใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ เช่น เซรั่มไฮยาลูรอน เช้า-เย็น หรือ เซรั่มวิตามิน ซี ในตอนเช้า
โดยสรุปแล้ว เราควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิว ความแข็งแรงของชั้นผิวและประโยชน์ในการดูแลผิวที่เราอยากได้รับ ทั้งนี้การใช้ควรมีการดูแลแบบองค์รวม อย่างเช่นอย่าลืมที่จะปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำร้ายผิว นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงการบริหารจัดการความเครียด เมื่อดูแลผิวแบบองค์รวมแบบนี้แล้ว มั่นใจได้เลยว่าคุณจะเห็นผลลัพธ์จากการใช้เรตินอลได้ดีที่สุดอย่างแน่นอน

^ผลสำรวจในกลุ่มผลิตภัณฑ์เวชสำอาง โดย AplusA และพันธมิตรร่วม ระหว่างเดือนมกราคม 2023 ถึง กรกฏาคม 2023 มีแพทย์ผิวหนังจาก 30 ประเทศเข้าร่วมโดยสามารถอ้างอิงถึงมากกว่า 80% ของ GDA ทั่วโลก
^^ Christos C. Zouboulis. Retinoids – Which Dermatological Indications Will Benefit in the Near Future?