หน้าโทรม ดูไม่สดใส แก้ไขอย่างไรดี ?

หลายๆครั้งที่เราอาจจะรู้สึกแปลกใจว่าทั้งๆ ที่ขั้นตอนการดูแลผิวของเราก็ไม่ได้เปลี่ยน เลย ใช้คลีนเซอร์ตัวเดิม เซรั่ม โลชั่น หรือครีม ตัวเดิมๆ แถมก็ไม่ค่อยจะได้โดนแดดสักเท่าไร แต่ทำไมช่วงนี้หน้าหมอง ดูหน้าโทรม หรือดูไม่ค่อยสดใส มีปัจจัยอะไรบ้างนะที่ทำให้ผิวเป็นแบบนั้น และจะต้องแก้ไขอย่างไร ตามมาดูในคอนเทนต์นี้กัน


ปัญหา หน้าหมอง ดูโทรม ไม่สดใส อาจไม่ได้มาจากการออกแดดแต่เพียงอย่างเดียว เพราะปัจจัยทำร้ายผิวเรามีมากมาย ที่ทำให้เซลล์ผิวมีความเสื่อมสภาพและทำให้หน้าดูหมองดูโทรม ดูไม่สดใส ซึ่งบางคนอาจจะเป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ แต่บางคนถ้าเผชิญกับปัจจัยทำร้ายผิวต่อเนื่อง เป็นระยะเวลานานๆ ก็จะทำให้ดูโทรมตลอดเวลาได้เลยทีเดียว


เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน:


ภัยร้ายที่ทำให้ผิวของเราดูโทรมคืออะไรบ้าง ?

ศาสตร์ของ Exposome หรือ ปัจจัยทำร้ายผิว เริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในวงการแพทย์ผิวหนัง เพราะไม่ใช่แค่ มลภาวะ หรือรังสี UV เท่านั้นที่ทำให้ผิวหมองโทรม ดูไม่สดใส แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก ที่เป็นตัวการร้าย ทำให้ผิวของเราดูหมอง โทรม ดูสุขภาพผิวไม่ดี อย่างเช่น


ปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายนอก นอกเหนือจาก รังสี UV มลภาวะ ก็ยังมี ฝุ่น¹ PM2.5 ที่เป็นตัวการสำคัญในการกระตุ้นให้เซลล์ผิวเราสร้างเม็ดสีผิวเมลานินขึ้น จนมาสะสมตัวที่ผิวชั้นบนกลายเป็นจุดด่างดำ หรือความหมองคล้ำสะสม รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยพบว่าเมื่ออากาศเปลี่ยน อย่างเช่น อยู่ในห้องปรับอากาศเป็นประจำ หรืออากาศที่มีความชื้นต่ำ (อย่างเช่นช่วงหน้าหนาว) จะทำให้มีสารก่อการอักเสบในผิวเพิ่มมากขึ้น²


ปัจจัยจากไลฟ์สไตล์

ปัจจัยจากไลฟ์สไตล์ เช่น ความเครียดสะสม ก็เป็นสาเหตุของผิวหมองโทรมเช่นเดียวกัน เพราะความเครียดสะสมทำให้ในชั้นผิวจะมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด) เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดอนุมูลอิสระจำนวนมากในผิว หรือ การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ³ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวดูหมอง ดูโทรมได้


ดังนั้นหากเราอยากจะดูแลผิวให้สดใส ไม่หมองโทรม ก็ต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยทำร้ายผิวต่างๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต รวมไปถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมสารอาหารให้ผิว และกู้ผิวหมองโทรมอย่างมีประสิทธิภาพ


VICHY M89 Probiotic Fractions

บูสท์ผิวใส หน้าไม่โทรมด้วยเทคโนโลยีโพรไบโอติก จากวิชี่

VICHY เวชสำอางจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีแพทย์ผิวหนังกว่า 50,000 คนทั่วโลกมั่นใจแนะนำให้ใช้4 ได้นำเอาพลังน้ำแร่แห่งภูเขาไฟโอแวงก์ (Auvergne) มาผสานการทำงานกับสารสำคัญที่ใช้อยู่ในวงการแพทย์ อย่างเช่น โพรไบโอติก แฟรกชั่นส์ และ ไนอะซินาไมด์ มาช่วยฟื้นผิวให้ดูสดใส ไม่หมองโทรม ด้วย VICHY Mineral 89 Probiotic Fractions SUPERCHARGEเซรั่ม ที่จะช่วยดูแลปัญหาผิวเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี


ด้วยส่วนผสมที่สำคัญคือ โพรไบโอติกแฟรกชั่นส์ เข้มข้น 5% ที่สกัดมาจากจุลินทรย์ที่มีประโยชน์ต่อผิวอย่าง Vitreoscilla Filiformis ที่นำมาเพาะเลี้ยงในน้ำแร่ภูเขาไฟวิชี่ จนทำให้สารสกัดที่ได้ มีสารอาหารและแร่ธาตุบำรุงผิวสูงถึง 34 ชนิด จึงช่วยดูแลผิวที่หมอง โทรม ดูเหนื่อยล้า จากการที่ผิวต้องเผชิญกับปัจจัยทำร้ายผิวมาอย่างหนักหน่วงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งไนอะซินาไมด์ (วิตามิน B3), ไฮยาลูรอน และ น้ำแร่ภูเขาไฟวิชี่ ที่ช่วยเติมเต็ม ความชุ่มชื้นให้กับผิว


วิชี่ M89 โพรไบโอติกแฟรกชั่นส์ มาพร้อมกับความปลอดภัยที่แพทย์ผิวหนังยอมรับ ไม่ว่าจะเป็น สูตรอ่อนโยนเหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย (hypoallergenic) ปราศจากสี, ปราศจากน้ำหอม, ปราศจากสารกันเสียพาราเบน จึงทำให้คนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายสามารถใช้ได้อย่างสบายใจแน่นอน


สำหรับขั้นตอนในการใช้วิชี่ MINERAL 89 Probiotic Fractions เป็นSUPERCHARGEเซรั่ม แนะนำให้ลงบนผิวเป็นขั้นตอนแรกสุด ก่อนที่จะลงเซรั่มชนิดอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อช่วยในการเตรียมผิว และช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารทั้ง 34 ชนิดที่มีอยู่ใน 5% Probiotic Fractions อย่างเต็มที่

สรุป

ปัญหาหน้าโทรม ผิวดูไม่สดใส เกิดจากหลายปัจจัยทำร้ายผิวที่เราเรียกว่า Exposome การดูแลผิวจึงต้องทำให้ครบรอบด้าน ทั้งการป้องกันผิวจากปัจจัยทำร้ายผิว ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เช่นการบริหารจัดการความเครียดและการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และอย่าลืมที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารอาหารและแร่ธาตุบำรุงผิวสูงถึง 34 ชนิด อย่างเช่น Mineral89 Probiotic Fractions ด้วย


  1. Grether-Beck S et al. 2020. An antioxidant cocktail containing cosmetic product (Liftactive cureR) prevents air pollution-induced skin hyperpigmentation: ex vivo Düsseldorf Pollution Skin Test. AAD 2020.
  2. K.A. Engebretsen, The effect of environmental humidity and temperature on skin barrier function and dermatitis. JEADV Oct 2015
  3. Suh DH, Kim BY, Min SU, Lee DH, Yoon MY, Kim NI, Kye YC, Lee ES, Ro YS, Kim KJ. A multicenter epidemiological study of acne vulgaris in Korea. Int J Dermatol. 2011 Jun;50(6):673-81.
  4. ผลสำรวจโดย AplusA และผู้ทำการสำรวจร่วมโดยอ้างอิงจากตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ เวชสาอาง ระหว่าง มกราคม 2021 ถึง ตุลาคม 2021 ซึ่งเป็นผลสํารวจที่มีแพทย์ผิวหนัง ทั้งหมด 34 ประเทศเข้าร่วม โดยสามารถอ้างอิงถึงมากกว่า 80% ของ GDA ทั่วโลก