"ผมร่วง" ปัญหาที่ใครก็ไม่อยากเผชิญ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคปัจจุบันนี้ ปัญหาผมขาดร่วงไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป หลายคนเริ่มสังเกตเห็นปริมาณเส้นผมที่ร่วงมากขึ้นผิดปกติ ตั้งแต่อายุยังน้อย สร้างความกังวลใจและความไม่มั่นใจให้กับใครหลายๆ คน
ในอดีต ปัญหานี้มักถูกมองว่าเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ หรือปัญหาที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปัจจัยภายนอกที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน หรือที่เรียกว่า "Exposome factors" มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการกระตุ้นให้เกิดปัญหาผมขาดร่วงก่อนวัยอันควร คอนเทนท์นี้จะพาคุณไปรู้จักกับปัจจัยที่ทำให้ผมขาดร่วงก่อนอายุอันควรและวิธีดูแลกัน
อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้น "Exposome factors" มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการกระตุ้นให้เกิดปัญหาผมขาดร่วงก่อนวัยอันควร แล้ว Exposome factors คืออะไร? มีอะไรบ้างที่ส่งผลเสียต่อเส้นผมและหนังศีรษะของเรา? แล้วเราจะสามารถป้องกันและดูแลเส้นผมของเราให้แข็งแรง สุขภาพดีได้อย่างไร?
Exposome คือ กลุ่มปัจจัยแวดล้อมที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพผิว สุขภาพกาย หรือสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ การทำความเข้าใจกับปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจถึงสาเหตุและการดูแลปัญหาผมขาดร่วงได้อย่างถูกต้อง
Table of Contents
- Exposome หรือ ปัจจัยทำร้ายผิวคืออะไร ส่งผลต่อผมร่วงได้ก่อนวัยได้อย่างไร?
- วิชี่ เดอคอส ช่วยเรื่องผมร่วง-ผมบางได้อย่างไร
.jpg?la=ja-jp&rev=7434b37371be49399c9f11d1b3eb1423&hash=8CC56838E5DFE708ADAFC815F06C43F4)
Exposome หรือ ปัจจัยทำร้ายผิวคืออะไร ส่งผลต่อผมร่วงได้ก่อนวัยได้อย่างไร?
Exposome factors หรือ ปัจจัยทำร้ายผิว สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ
- ปัจจัยภายนอก : ได้แก่ มลภาวะทางอากาศ (ฝุ่น PM2.5 สารเคมีในอากาศ) รังสี UV จากแสงแดด สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง (ร้อนจัด หนาวจัด) การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์
- ปัจจัยภายในและปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์ :ได้แก่ ความเครียด การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อาหารการกินที่ไม่สมดุล การใช้ยาบางชนิด
Exposome factors เหล่านี้ สามารถส่งผลเสียต่อเส้นผมและหนังศีรษะได้หลายประการ
- มลภาวะ ฝุ่น PM2.5 และสารเคมีในอากาศ ทำให้เกิดการอักเสบของหนังศีรษะ รบกวนการทำงานของรูขุมขน และทำให้ผมร่วงจึงไม่ต้องแปลกใจเลย ในช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 เยอะๆ จะทำให้เรารู้สึกคันหนังศีรษะและบางคนมีอาการผมขาดร่วงเพิ่มมากขึ้นได้อย่างชัดเจน
- รังสี UV ทำลายโปรตีนในเส้นผม ทำให้ผมอ่อนแอ แห้งเสีย ขาดความยืดหยุ่น และขาดหลุดร่วงง่าย
- ความเครียด กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน Cortisol ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้ผมขาดร่วงมากขึ้น
- อาหาร การขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม (เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก สังกะสี ไบโอติน) ทำให้ผมอ่อนแอ ไม่แข็งแรง และร่วงง่าย
นอกจากนี้ ปัจจัยทำร้ายผิว หรือ Exposome factors เหล่านี้ยังสามารถส่งผลกระทบต่อไมโครไบโอม (Microbiome) บนหนังศีรษะ ซึ่งเป็นระบบนิเวศของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่บนหนังศีรษะ การเสียสมดุลของไมโครไบโอม สามารถนำไปสู่ปัญหาหนังศีรษะ เช่น รังแค หนังศีรษะมัน หรือหนังศีรษะอักเสบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพเส้นผมโดยรวม และนำพาไปสู่ปัญหาผมขาดร่วงที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ในอดีต เรามักจะเห็นปัญหาผมขาดร่วงในกลุ่มผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ โดยมักจะเริ่มสังเกตได้ชัดเจนในช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป แต่จากสถิติและข้อมูลทางการแพทย์ในปัจจุบัน พบว่าแนวโน้มของผู้ที่เริ่มประสบปัญหานั้น "อายุน้อยลง" อย่างเห็นได้ชัด หลายคนเริ่มสังเกตเห็นว่าผมขาดร่วงมากขึ้นผิดปกติ ตั้งแต่อายุ 20 ปลาย ๆ หรือ 30 ต้น ๆ ซึ่งอาจมาในรูปแบบของ
ผมขาดร่วงหลังสระผม
สังเกตว่ามีเส้นผมติดมือออกมาเป็นจำนวนมาก หรือมีเส้นผมขาดร่วงบนพื้นห้องน้ำมากกว่าปกติ
ผมขาดร่วงตามแนวไรผม
ผมร่วงตามแนวไรผม แนวไรผมเริ่มร่นสูงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก
ผมบางลง
ผมดูบางลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะบริเวณกลางศีรษะ หรือบริเวณขมับ
หนังศีรษะมันง่าย
หนังศีรษะมันเร็วกว่าปกติ ซึ่งบางคนคิดว่า หนังศีรษะมัน ไม่เห็นจะเกี่ยวกับผมขาดร่วงเลย แต่จริงๆ แล้ว การที่เส้นผมเริ่มจะลดน้อยลง ทำให้น้ำมันที่ถูกขับออกมาเท่าๆเดิมตลอดนั้นไม่มีเส้นผมให้เคลือบ จึงทำให้หนังศีรษะดูมันมากกว่าปกติ ดังนั้นหนังศีรษะมันง่าย จึงอาจเป็นอีกสัญญาณเตือนว่า ผมเริ่มจะบางแล้วนั่นเอง
ผมเส้นเล็กลง
สังเกตว่าเส้นผมมีขนาดเล็กลง อ่อนแอ และเปราะบาง เป็นอาการเริ่มต้นของ โรคบางชนิด เช่น AGA ซึ่งแสดงว่าคุณกำลังเข้าสู่ภาวะผมขาดร่วงผมบางนั่นเอง
หากคุณเริ่มสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ แม้ว่าคุณจะยังอยู่ในช่วงอายุ 20-30 ปี ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของปัญหาผมขาดร่วงที่เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน ความเครียด หรือ Exposome factors ที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว การดูแลและแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาผมขาดร่วงผมบางนั้นรุนแรงขึ้น และช่วยให้คุณมีผมที่แข็งแรง สุขภาพดีไปได้นาน ๆ
.jpg?la=ja-jp&rev=2dcb79e883b04a85bb69cf67e0f39c51&hash=1CF1087F9947EC8785FA481FE116692C)
วิชี่ เดอคอส ช่วยเรื่องผมร่วง-ผมบางได้อย่างไร
Vichy เวชสำอางจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีแพทย์ผิวหนังกว่า 70,000 คนทั่วโลกมั่นใจแนะนำให้ใช้1 รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ Dercos Aminexil เพื่อดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ จากประเทศฝรั่งเศส ที่ช่วยจัดการปัญหาผมร่วง และช่วยทำให้เส้นผมและรากผมแข็งแรงขึ้นได้
Dercos Aminexil เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้ โดยที่มีผลิตภัณฑ์ที่แนะนำให้ใช้คู่กันเป็น Protocol คือ
- แชมพู Aminexil Energy+
- ครีมนวดผม Aminexil Energy+
- เซรั่ม Aminexil Clinical 5
ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Aminexil เอสามารถช่วยลดการหลุดร่วงขอเส้นผมได้แบบ 5 มิติ คือ ลดการหลุดร่วงของเส้นผม บำรุงหนังศีรษะอย่างล้ำลึก พร้อมทั้งเสริมความแข็งแรงของรากผมและหนังศีรษะ อีกทั้งเสริมความชุ่มชื้น ลดโอกาสที่จะเกิดการระคายเคือง นอกจากนี้ยังช่วยทำให้เส้นผมดูมีโวลลุ่ม ดูหนาแน่นขึ้นอีกด้วย
ส่วนผสม Aminexil โมเลกุลเอกสิทธิ์เฉพาะ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวยารักษาผมขาดร่วง minoxidil พบได้ใน เซรั่ม แชมพู และ ครีมนวดผม เป็นสารที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเน็ทเวิร์คของคอลลาเจนที่รากผมให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ลดการหลุดร่วงของเส้นผม และช่วยฟื้นบำรุงรากผมให้มีสุขภาพดี อีกทั้ง อะมิโน แอซิด Argenine ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการไหลเวียน เสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผมงอกใหม่
สำหรับเซรั่มยังมีส่วนผสมพิเศษอย่างเช่น SP94 เป็นแหล่งพลังงานในการงอกใหม่ และน้ำแร่ภูเขาไฟวิชี่ ที่มีแร่ธาตุและสารอาหารให้กับรากผมถึง 15 ชนิด โดยเซรั่มมีการทดสอบทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่าช่วยทำให้ผมดูหนาแน่นขึ้น เมื่อใช้เป็นประจำต่อเนื่อง 6 เดือน2
ส่วนแชมพู และ ครีมนวด Dercos AMINEXIL อุดมไปด้วย วิตามินและอาหารผม อีกทั้งในครีมนวดยังมี เซราไมด์ ที่ช่วยฟื้นบำรุงหนังศีรษะให้มีสุขภาพแข็งแรง ทำให้รากผมยึดเกาะได้ดียิ่งขึ้น และ Sun Flower oil ยังช่วยบำรุงหนังศีรษะและผมที่งอกใหม่ให้มีสุขภาพดี
Dercos Aminexil ทั้ง 3 สูตร มาพร้อมกับสูตรสำหรับหนังศีรษะบอบบางแพ้ง่าย Hypoallergenic ปราศจากปัจจัยที่จะทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง เพราะ ปราศจากสารกันเสียพาราเบน ซิลิโคน และสารแต่งสี คนที่หนังศีรษะแพ้ง่ายจึงใช้ได้อย่างสบายใจ โดยวิธีการใช้ สำหรับแชมพู สามารถสระได้บ่อยครั้งตามต้องการ แล้วตามด้วยครีมนวด ซึ่งสามารถนวดและหมักได้ทั้งบริเวณเส้นผม และ โคนผม เพื่อช่วยส่งผ่านสารอาหารสู่รากผมได้ดียิ่งขึ้น โดยแนะนำให้หมักทิ้งไว้ 1-2 นาที ส่วนเซรั่ม แนะนำให้ใช้วันละ 1 ครั้ง จะเช้าหรือเย็นก็ได้ โดยหลังจากหยดเซรั่มลงบนหนังศีรษะแล้ว ให้ใช้นิ้วมือนวดคลึงเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และช่วยให้เส้นผมสามารถเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
สรุป
สุดท้ายนี้ การดูแลปัญหาผมขาดร่วง-ผมบาง ต้องทำพร้อมๆ กันหลายอย่าง ทั้งการเข้าใจสาเหตุ ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของเรา รวมไปถึงการบริหารจัดการความเครียด และการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้สภาพโครงสร้างของหนังศีรษะเราแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้น เมื่อทำควบคู่ไปกับเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้รากผมมีสุขภาพดีและแข็งแรง ก็จะทำให้ปัญหาผมขาดร่วง-ผมบาง ดีขึ้นแน่นอน
- ผลสำรวจโดย AplusA และผู้ทำการสำรวจร่วมโดยอ้างอิงจากตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ เวชสำาอาง ระหว่าง มกราคม 2023 ถึง กรกฎาคม 2023 ซึ่งเป็นผลสํารวจที่มีแพทย์ผิวหนัง ทั้งหมด 30 ประเทศเข้าร่วม โดยสามารถอ้างอิงถึงมากกว่า 80% ของ GDA ทั่วโลก
- Loussouarn G, et al. BEDC.1997;5:1-6.